Friday, August 31, 2007

คนเก่า ข่าวใหม่ โลกใบเดิม



เป็นความบังเอิญที่ชวนจั๊กกะจี้ไม่เบาที่ฉันได้รับข่าวคราวของบรรดาคนที่ฉันเคยชอบพอในช่วงเวลาติดๆกันภายในสัปดาห์เดียว ขำแรกก็เพราะดันเป็นไล่เลี่ยกันพอดิบพอดี ขำที่สองก็ตรงที่ได้รู้ว่าตัวเองเคยชอบอยู่หลายคน (ซึ่งดีกว่าเกลียดหลายคน...ว่าไหม)

เริ่มจากคนแรก ผู้หญิงที่ฉันเคยรัก (คุณอ่านไม่ผิดแน่นอน) เธอเป็นเพื่อนของฉันตั้งแต่สมัยมัธยมฯ 5 ปีคือระยะเวลาที่หล่อนมานั่งไขว่ห้างอยู่ในใจฉัน และ 0 วินาทีคือระยะเวลาที่ฉันเข้าไปนั่งพับเพียบในใจของหล่อน ฉันต้องยกเครดิตให้เธอที่เป็นแรงบันดาลใจให้ฉันลดน้ำหนักลง 30 กิโลได้สำเร็จ และหันมาดูแลสุขภาพอย่างเป็นบ้าเป็นหลัง ปัจจุบันเธอเป็นเพื่อนสาวผู้มีน้องชายสุดหล่อพร้อมดื่ม น่ารับประทานยิ่งนัก (อ๊ายส์!!!) หลังจากปลายปีที่แล้วที่เธอลัดฟ้าไปร่ำเรียนที่ต่างประเทศ ฉันก็ไม่ได้ข่าวคราวของเธออีกเลย เพิ่งจะได้มาคุยกันอีกครั้งใน Hi5 ตอนนี้เธอมีแฟนแล้ว เป็นเพื่อนโรงเรียนเดียวกันนี่เอง ถ่ายรูปคู่กันเสียหวานหยดย้อย มีความสุขกันเต็มที่เลยนะคุณ เดี๋ยวเราจะปกป้องน้องชายคุณจากความปลอดภัยทั้งปวง (เพราะเรานี่แหละอันตรายที่สุด อ๊ายส์!!!)
คนที่สองคือแฟนเก่าของฉัน คราวนี้ฉันเทิร์นโปรมาเป็นเกย์อิชาเต็มตัวแล้ว ชายหนุ่มผู้โชคร้ายคนนี้เป็นคริสเตียน (ส่วนฉันเป็นคริสติน่า – ตึง!!) เขามักจะพาฉันไปที่โบสถ์เพื่อสวดอ้อนวอนขอให้ชีวิตเขาพบแต่สิ่งที่ดี ไม่นานนัก เขาก็ไปพบสิ่งที่ดีจนได้ นั่นคือการเลิกกับฉัน หลังจากเลิกกัน เรายังได้คุยกันอย่างเพื่อน เขาอยู่ที่หาดใหญ่ ส่วนฉันอยู่ที่กรุงเทพฯ แน่นอนว่าระยะทางเป็นอุปสรรคในการดำรงความสัมพันธ์ แต่ถึงกระนั้น ฉันก็ยังบ้าจี้ถ่อไปหาเขาจนได้ แต่น่าแปลกที่ตั้งแต่ต้นปีมานี้เราก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย ไม่แม้แต่จะโทรหากัน ไม่รู้เพราะอะไร ทุกครั้งที่ฉันได้ยินข่าวไม่ดีเกี่ยวกับการวางระเบิดที่ภาคใต้ ฉันก็อดเป็นห่วงเขาไม่ได้ ฉันพยายามติดต่อเขาแต่ก็เงียบหาย ล่าสุด ฉันเห็นเขาในเว็บเกย์แห่งหนึ่ง โพสรูปอะร้าอร่ามพร้อมเมลติดต่อกลับ ฉันหาได้ติดต่อไปหาเมลเขาแต่อย่างใด ไม่เกี่ยวกับว่าเขามีแฟนแล้ว แต่เป็นเพราะฉันเชื่อว่า เขามีเหตุผลบางอย่างที่ขาดหายกันไป และถ้านั่นจะเป็นเหตุผลที่เขายินดีกับมัน ฉันก็ไม่ขัดข้อง สิ่งที่ตกตะกอนในความรู้สึกของฉันไม่ใช่ความรักอย่างคนเคยผูกพัน แต่เป็นมิตรภาพห่างๆ ที่จะคอยเอาใจช่วยเขาอยู่ไกลๆ
คนต่อมาคือผู้ชายที่ฉันเคยปลื้ม หล่อ ฉลาด เป็นถึงอัจฉริยะข้ามคืน เป็นผู้ชายในฝันทุกกระเบียดนิ้ว ขอสารภาพว่าฉันเคยหาเรื่องไปสัมภาษณ์เขาถึงสองครั้งสองคราเพราะชอบเขามาก จนกระทั่งวันหนึ่ง ฉันรวบรวมความกล้าไปบอกชอบเขา แต่ยังไม่ทันได้อ้าปากสั่นๆบอกไปหรอก เขาก็ดันพูดเรื่องแฟนของเขาขึ้นมาเสียก่อนจนฉันแทบหงายหลัง ขำตัวเองที่ดันเลือกฤกษ์ยามได้ดีมาก ฉันเดินกลับไปที่รถเพื่อพบว่ากรีนเวฟได้เตรียมเพลง “ไม่อยากให้เธอรู้” รอฉันอยู่แล้ว ฉันกลับบ้านไปพร้อมน้ำตาที่พร่างพรู อยากเป็นเหมือนคนที่เธอจูงมือ แต่มานึกดู นับว่าฉันมาได้ไกลทีเดียว ฉันยังได้รู้จักเขา ได้ทานข้าวกับเขาอย่างพี่น้อง อย่างน้อยฉันก็รู้ว่าผู้ชายในฝันมีตัวตนล่ะวะ มันคงดีกว่าการที่ฉันไม่เคยเจอคนดีๆกะเขาบ้างเลยในชีวิตจริงไหม เมื่อวันก่อน พี่โอปอลโทรหาฉันบอกว่าพบผู้ชายคนนี้กำลังทานไอติมไอเบอรีถ้วยเดียวกันกับแฟนอย่างกระหนุงกระหนิง และก็ฉันกลับมาที่รถเพื่อพบว่ากรีนเวฟเตรียมเพลง ปาฏิหาริย์” ไว้ให้ฉันฟังเรียบร้อยแล้ว
คนสุดท้ายคือแฟนคนล่าสุดของฉัน คนที่ฉันเคยเล่าให้คุณฟังในเรื่อง 1 เดือน 9 วันนั่นแหละ ฉันได้ข่าวว่าตอนนี้เขากำลังจีบรุ่นน้องของฉันเอง ฉันไม่มีอาการหวงก้างใดๆทั้งนั้น ฉันบอกได้จากใจจริงเลยว่าฉันเอาใจช่วยทั้งคู่ ฉันมั่นใจว่าเขาจะต้องทำได้ดีกว่าตอนที่อยู่กับฉันแน่นอน สู้เว้ย!!!
ฉันรับรู้ข่าวคราวของคนเหล่านี้ด้วยรอยยิ้มแห่งความปิติยินดี ไม่มีความเศร้าแม้เพียงสักหยาดหยดหนึ่งมาปลอมปน เราต่างก็มีทางเดินชีวิตของตนเอง และทุกคนก็มีความสุขกับมัน บางคนอาจจะทำใจได้ยากเมื่อพบข่าวคราวของคนรักเก่า แต่ฉันไม่รู้จะเศร้าไปทำไม ในเมื่ออีกฝ่ายกำลังมีความสุขนี่หว่า ถ้าจะเสียใจ ฉันควรเสียใจเมื่อเขามีความทุกข์สิ แต่นี่เขามีความสุข ทุกอย่างมันจบในตัวแล้วล่ะ ฉันไม่จำเป็นจะต้องทำอะไรนอกจากยินดีกับความสุขของเขา ฉันคงไม่มานั่งร้องไห้คร่ำครวญถึงอดีตให้เสียเวลาหรอก อดีตเป็นได้อย่างมากที่สุดก็คือบทเรียน อย่าเอามาบั่นทอนปัจจุบันกันนักเลย ร้องไห้ไป ดูรูปเก่าๆไปแล้วเขากลับมาไหมก็ไม่ เขารับรู้ไหมก็ไม่ โลกนี้ไม่ใช่ของฉันคนเดียวเสียที่ไหนกัน มันก็ต้องแบ่งๆกันไปสิ จะมาได้ทุกอย่างตามที่ฉันต้องการคนเดียวคงไม่ได้หรอก บางครั้งความสุขของคนสองคนมันอาจจะไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องรักกันหรืออยู่ด้วยกันนี่นา ในเมื่อเขามีความสุขแล้ว ฉันก็ไปมีความสุขของฉันสิ หรือแม้กระทั่งตอนที่ฉันเลิกกันกับแฟน ฉันก็คิดว่าไม่เป็นไร ในเมื่อเป็นแฟนกันมันไม่มีความสุขนี่หว่า สู้เลิกกันแล้วเราไปมีความสุขกว่าเดิมดีกว่าเป็นไหนๆ แล้วจะมาเศร้าทำไมในเมื่อจบจากตรงนี้แล้ว ฉันและเธอก็กำลังจะไปมีความสุขกันทั้งคู่ไม่ใช่เหรอ
แค่นี้เราก็ยืนอยู่บนโลกเดียวกันได้อย่างมีความสุขกันทั้งคู่แล้ว...