
1
"เชี่ย! นี่มันชีวิตกูชัดๆ!"
เมื่อคืนเป็นอีกคืนที่ผมปล่อยตัวเองไปกับโลกของ Sex & the City (อย่าถามเลยว่าผมเหมือนใครในเรื่องนี้ ฮ่าๆๆ!) ตอนที่ผมดูชื่อ ‘Chicken Dance’ ว่าด้วยเรื่องเพื่อนของชาร์ล็อตซึ่งตกหลุมรักคู่เดทของมิแรนด้าทันทีที่พบ และในอีก 2 อาทิตย์ต่อมา เขาและเธอก็ตกลงแต่งงานกันอย่างสายฟ้าแลบ แครีเล่าเรื่องนี้ให้บิ๊กฟัง คำพูดของบิ๊กทำเอาผมเก็บไปคิดวนเวียนอยู่ทั้งคืน
“I don’t believe in love at first sight but I believe in lust at first sight”
จบประโยคนี้ปั๊บ ก็ตัดเป็นความคิดเห็นของสาวๆหลายๆคน ผู้หญิงคนหนึ่งพูดไว้อย่างน่าสนใจว่า
“คนที่ไม่เชื่อในรักแรกพบก็เพราะเขายังไม่เคยเจอกับตัวเองน่ะสิ”
2
บ่ายแก่ๆของวันอังคารที่น่าเบื่อ ผมนั่งทำงานอยู่เงียบๆ จำไม่ได้ว่าพี่ๆที่นั่งเม้าท์อยู่ใกล้ๆคุยกันเรื่องอะไรอยู่ แต่มีประโยคหนึ่งจากบก.ที่ดันมาสะดุดหูผมเอาจังเบ้อเร่อ และผมก็อดคิดถึงมันไม่ได้
“ผู้ชายไม่ต้องการความรักหรอก แค่ต้องการเซ็กส์และความเข้าใจเท่านั้นเอง”
3
เท่าที่ผมเห็น ผู้ชายมักสามารถแยกความรักและความใคร่ได้อย่างชัดเจน ผู้ชายมีผู้หญิงได้หลายคน และแต่ละคนล้วนมีตำแหน่งแห่งที่อยู่ในใจของผู้ชาย เช่น ผู้หญิงคนนี้มีไว้เพื่อบูชา ผู้หญิงคนนี้มีไว้เป็นนางบำเรอ ส่วนผู้หญิงคนนั้นมีไว้เป็นภรรยา ฯลฯ ในขณะที่ผู้หญิงถูกสอนให้หลอมรวมความรักกับความใคร่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เช่น ผู้หญิงมักเชื่อว่าต้องมีเซ็กส์กับผู้ชายที่เธอรักเท่านั้น ผู้หญิงจึงใช้เซ็กส์เป็นเครื่องแสดงว่าเธอรักใครสักคนแล้ว และพร้อมจะเป็นของของเขา (ซึ่งเอาจริงๆ เธอไม่ใช่ “ของ” และเธอก็ไม่ใช่ “ของใคร” สักกะหน่อย)
ไม่ได้บอกว่าใครดีหรือไม่ดีกว่ากัน เพียงแต่ผมรู้สึกว่า ทั้งรักและใคร่มันน่าจะมาเป็นเนื้อเดียวกันไม่ใช่หรือ (หมายถึงในความสัมพันธ์แบบผัวเมียน่ะนะ) มันคงไม่ได้แยกกันเป็นขาวกับดำได้หมดหรอก ซึ่งนั่นแปลว่า รักไม่ใช่สิ่งที่ประเสริฐที่สุด และใคร่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวทรามที่สุด ผมนึกไม่ค่อยออกว่ารักแบบไม่มีใคร่เป็นอย่างไร ยังไงมันก็มีความใคร่เจืออยู่ เพียงแต่จะมากจะน้อยเท่านั้นเอง
แต่ก็อีกนั่นแหละ ถ้าของมันมาคู่กันจริง แล้วเราจะอธิบายความสัมพันธ์แบบใคร่ล้วนๆซึ่งมีอยู่จริงได้อย่างไรล่ะ เราเชื่อกันว่าความสัมพันธ์แบบใคร่ล้วนๆไม่มีวันยืดยาว เพราะไม่ได้มีความรักเกาะเกี่ยวผูกพันกันอยู่ แต่เคยได้ยินความสัมพันธ์แบบ ‘Fuck buddy’ ไหมครับ Fuck buddy ก็คือคู่เดทที่ดูท่าว่าจะไปไม่รอดในเรื่องรัก แต่เข้าขากันดีเหลือเกินเวลาอยู่บนเตียง คุณทั้งสอง (อย่างน้อยก็สอง!) จึงเกี่ยวพันกันด้วยเซ็กส์ (ที่ไม่มีรัก?) และเท่าที่ผมทราบ Fuck buddy หลายคู่ก็ยังคงเป็น buddy ได้ยาวนานทีเดียว บางที Fuck buddy ก็อาจจะเป็นเหมือนที่พี่บก.บอกว่า ไม่ต้องการความรัก แต่ต้องการเซ็กส์และความเข้าใจเท่านั้นเอง
4
ผมเคยมีทั้ง Love at first sight และ Lust at first sight ผมคิดอย่างบิ๊กว่า Lust at first sight มีจริง แต่ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เรารู้สึกในวินาทีที่สองสายตาประสานกันมันคือ Love หรือ Lust กันแน่ ถ้าความรักคือความรู้สึกกำซาบลึกซึ้ง คนเราจะสามารถรักใครทันทีเชียวหรือ ผมคิดเอาเองว่าไอ้ความรู้สึกนั้นมันน่าจะเป็น Lust at first sight เพียงแต่ Lust นี้มันอาจจะต่างจาก Lust อื่นๆที่เคยพบ อาจเป็น Lust ที่วางตัวอยู่ใกล้ Love สักหน่อยจนพัฒนาเป็น Love ได้ ผมคิดว่าความรักจะเกิดขึ้นได้น่าจะต้องใช้เวลามากกว่าเพียงชั่ววินาทีของสายตา แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมคิดว่าทั้งรักและใคร่ก็ต้องการความเข้าใจมาค้ำยันให้ความสัมพันธ์ไปด้วยกันได้
เคยมีนักวิทยาศาสตร์พูดว่า ทั้งความรักและความใคร่ก็เกิดจากการหลั่งสารเคมีในสมองเหมือนกันนั่นแหละ
คุณยังจะรักผมไหมครับ ถ้าความรู้สึกทั้งหมดที่ผมมีให้คุณเกิดจากต่อมในสมองมันดันสั่งการให้เป็นแบบนั้น...เท่านั้นเอง
"เชี่ย! นี่มันชีวิตกูชัดๆ!"
เมื่อคืนเป็นอีกคืนที่ผมปล่อยตัวเองไปกับโลกของ Sex & the City (อย่าถามเลยว่าผมเหมือนใครในเรื่องนี้ ฮ่าๆๆ!) ตอนที่ผมดูชื่อ ‘Chicken Dance’ ว่าด้วยเรื่องเพื่อนของชาร์ล็อตซึ่งตกหลุมรักคู่เดทของมิแรนด้าทันทีที่พบ และในอีก 2 อาทิตย์ต่อมา เขาและเธอก็ตกลงแต่งงานกันอย่างสายฟ้าแลบ แครีเล่าเรื่องนี้ให้บิ๊กฟัง คำพูดของบิ๊กทำเอาผมเก็บไปคิดวนเวียนอยู่ทั้งคืน
“I don’t believe in love at first sight but I believe in lust at first sight”
จบประโยคนี้ปั๊บ ก็ตัดเป็นความคิดเห็นของสาวๆหลายๆคน ผู้หญิงคนหนึ่งพูดไว้อย่างน่าสนใจว่า
“คนที่ไม่เชื่อในรักแรกพบก็เพราะเขายังไม่เคยเจอกับตัวเองน่ะสิ”
2
บ่ายแก่ๆของวันอังคารที่น่าเบื่อ ผมนั่งทำงานอยู่เงียบๆ จำไม่ได้ว่าพี่ๆที่นั่งเม้าท์อยู่ใกล้ๆคุยกันเรื่องอะไรอยู่ แต่มีประโยคหนึ่งจากบก.ที่ดันมาสะดุดหูผมเอาจังเบ้อเร่อ และผมก็อดคิดถึงมันไม่ได้
“ผู้ชายไม่ต้องการความรักหรอก แค่ต้องการเซ็กส์และความเข้าใจเท่านั้นเอง”
3
เท่าที่ผมเห็น ผู้ชายมักสามารถแยกความรักและความใคร่ได้อย่างชัดเจน ผู้ชายมีผู้หญิงได้หลายคน และแต่ละคนล้วนมีตำแหน่งแห่งที่อยู่ในใจของผู้ชาย เช่น ผู้หญิงคนนี้มีไว้เพื่อบูชา ผู้หญิงคนนี้มีไว้เป็นนางบำเรอ ส่วนผู้หญิงคนนั้นมีไว้เป็นภรรยา ฯลฯ ในขณะที่ผู้หญิงถูกสอนให้หลอมรวมความรักกับความใคร่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เช่น ผู้หญิงมักเชื่อว่าต้องมีเซ็กส์กับผู้ชายที่เธอรักเท่านั้น ผู้หญิงจึงใช้เซ็กส์เป็นเครื่องแสดงว่าเธอรักใครสักคนแล้ว และพร้อมจะเป็นของของเขา (ซึ่งเอาจริงๆ เธอไม่ใช่ “ของ” และเธอก็ไม่ใช่ “ของใคร” สักกะหน่อย)
ไม่ได้บอกว่าใครดีหรือไม่ดีกว่ากัน เพียงแต่ผมรู้สึกว่า ทั้งรักและใคร่มันน่าจะมาเป็นเนื้อเดียวกันไม่ใช่หรือ (หมายถึงในความสัมพันธ์แบบผัวเมียน่ะนะ) มันคงไม่ได้แยกกันเป็นขาวกับดำได้หมดหรอก ซึ่งนั่นแปลว่า รักไม่ใช่สิ่งที่ประเสริฐที่สุด และใคร่ก็ไม่ใช่สิ่งที่เลวทรามที่สุด ผมนึกไม่ค่อยออกว่ารักแบบไม่มีใคร่เป็นอย่างไร ยังไงมันก็มีความใคร่เจืออยู่ เพียงแต่จะมากจะน้อยเท่านั้นเอง
แต่ก็อีกนั่นแหละ ถ้าของมันมาคู่กันจริง แล้วเราจะอธิบายความสัมพันธ์แบบใคร่ล้วนๆซึ่งมีอยู่จริงได้อย่างไรล่ะ เราเชื่อกันว่าความสัมพันธ์แบบใคร่ล้วนๆไม่มีวันยืดยาว เพราะไม่ได้มีความรักเกาะเกี่ยวผูกพันกันอยู่ แต่เคยได้ยินความสัมพันธ์แบบ ‘Fuck buddy’ ไหมครับ Fuck buddy ก็คือคู่เดทที่ดูท่าว่าจะไปไม่รอดในเรื่องรัก แต่เข้าขากันดีเหลือเกินเวลาอยู่บนเตียง คุณทั้งสอง (อย่างน้อยก็สอง!) จึงเกี่ยวพันกันด้วยเซ็กส์ (ที่ไม่มีรัก?) และเท่าที่ผมทราบ Fuck buddy หลายคู่ก็ยังคงเป็น buddy ได้ยาวนานทีเดียว บางที Fuck buddy ก็อาจจะเป็นเหมือนที่พี่บก.บอกว่า ไม่ต้องการความรัก แต่ต้องการเซ็กส์และความเข้าใจเท่านั้นเอง
4
ผมเคยมีทั้ง Love at first sight และ Lust at first sight ผมคิดอย่างบิ๊กว่า Lust at first sight มีจริง แต่ผมชักไม่แน่ใจแล้วว่าสิ่งที่เรารู้สึกในวินาทีที่สองสายตาประสานกันมันคือ Love หรือ Lust กันแน่ ถ้าความรักคือความรู้สึกกำซาบลึกซึ้ง คนเราจะสามารถรักใครทันทีเชียวหรือ ผมคิดเอาเองว่าไอ้ความรู้สึกนั้นมันน่าจะเป็น Lust at first sight เพียงแต่ Lust นี้มันอาจจะต่างจาก Lust อื่นๆที่เคยพบ อาจเป็น Lust ที่วางตัวอยู่ใกล้ Love สักหน่อยจนพัฒนาเป็น Love ได้ ผมคิดว่าความรักจะเกิดขึ้นได้น่าจะต้องใช้เวลามากกว่าเพียงชั่ววินาทีของสายตา แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมคิดว่าทั้งรักและใคร่ก็ต้องการความเข้าใจมาค้ำยันให้ความสัมพันธ์ไปด้วยกันได้
เคยมีนักวิทยาศาสตร์พูดว่า ทั้งความรักและความใคร่ก็เกิดจากการหลั่งสารเคมีในสมองเหมือนกันนั่นแหละ
คุณยังจะรักผมไหมครับ ถ้าความรู้สึกทั้งหมดที่ผมมีให้คุณเกิดจากต่อมในสมองมันดันสั่งการให้เป็นแบบนั้น...เท่านั้นเอง